ชนิดของคำ

21:44


          ชนิดของคำ หมายถึง รูปคำที่มาจากตระกูลเดียวกัน เช่น beauty, beautiful, beautifully, beautify, etc. คำเหล่านี้มาจากรากศัพท์เดียวกันที่แปลว่า สวยงาม ทั้งสิ้น ต่างกันก็แต่ชนิดของคำเท่านั้น
          ลักษณะคำถามที่เข้าข่ายหัวข้อนี้ จะประกอบไปด้วย choice คำตอบ 4 ตัวที่มาจากรากศัพท์เดียวกัน ให้เลือก choice ที่เติมลงไปในช่องว่างแล้วถูกต้องตามหลักไวยากรณ์

Example :
          Once I loved Jane because she was _________.
          (A) beautiful                    (B) beautifully
          (C) beauty                       (C) beautify

          หลักไวยากรณ์บอกว่า คำที่ตามหลัง v. to be เป็น noun หรือไม่ก็ adjective เท่านั้น ฉะนั้น จึงตัด choice ข้อ B (adverb) และ D (verb) ทิ้งได้ สุดท้าย choice ที่เติมลงไปแล้วได้ความหมายและถูกไวยากรณ์ คือ ข้อ A

          วิธีการที่จะทำให้รู้ได้ว่า choice แต่ละข้อเป็นคำชนิดไหน ให้ดูที่
     1) ตำแหน่งหรือหน้าที่ของคำนั้น ๆ ในประโยค
     2) ส่วนลงท้ายของคำ (fuffix)

          วิธีการทั้ง 2 แบบดังกล่าว จะช่วยให้เราจำแนกชนิดของคำ 4 ชนิดที่ออกข้อสอบเป็นประจำได้ คือ noun, adjective, adverb และ verb

การจำแนก nouns
          1) เรื่องตำแหน่งของคำ คำนามจะอยู่หลังคำต่อไปนี้

  • articles (a, an, the) เช่น an hour, the consul เป็นต้น
  • determiners (all, a few, most, some, one, tow - จำนวนนับ, etc.) เช่น most flowers, some information เป็นต้น
  • adjective ทั่วไป (good, normal, smart, etc.) เช่น nice guy, careless driver, etc.
  • v. to be, become เช่น My sister will be an airhostess soon.
          2) ส่วนลงท้ายของคำ ที่แสดงความเป็นคำนาม (noun suffix) ได้แก่
  • ion เช่น computerization, mission
  • ism เช่น Buddhism, theism
  • ity เช่น trinity, creativity
  • ness เช่น darkness, loveliness
  • ment เช่น movement, commitment
  • ship เช่น friendship, relationship
  • ance เช่น absence, ambivalence
  • ence เช่น absence, ambivalence
  • ist เช่น dentist, scientist
  • er, or (ผู้กระทำ) เช่น trainer, advisor
  • ee (ผู้ถูกกระทำ) เช่น trainee, adviss
  • dom เช่น kingdom, freedom

การจำแนก adjectives
          1) เรื่องตำแหน่งของคำ adjectives เป็นดังนี้
  • อยู่หน้า noun เช่น brilliant lawyer, careful student
  • อยู่หลัง v. to be เช่น It is humorous.
          2) ส่วนลงท้ายของคำ ที่แสดงความเป็น adjective (adjective suffix) ได้แก่
  • ible เช่น edible, compatible
  • able เช่น readable, enjoyable
  • ful เช่น beautiful, respectful
  • ous เช่น anomalous, fabulous
  • ant เช่น important, significant
  • ent เช่น absent, ambivalent
  • ish เช่น selfish, childish
  • like เช่น forklike, shrimplike
  • ive เช่น expensive, talkative
  • y เช่น milky, sandy
  • less เช่น careless, hopeless
  • free เช่น carefree
การจำแนก verbs
          1) เรื่องตำแหน่งของคำ verbs มีตำแหน่งในประโยคดังนี้
  • อยู่หลังประธาน (พวก noun) เช่น The employee smiles a lot.
  • อยู่หน้ากรรม (พวก noun) เช่น Mother often kisses my cheek.
  • อยู่หน้า adverb of manner เช่น Our professor speaks loudly.
  • อยู่หลัง adverb of frequency เช่น Mary always stares at me.
          2) ส่วนลงท้ายของคำ ที่แสดงความเป็น verb (verb suffix) ได้แก่
  • ize, ise เช่น modernize, organise
  • ify เช่น modify, ratify
  • ate เช่น calculate, radiate
  • en เช่น lighten, shorten
  • ing เช่น running, washing
  • ed เช่น improved, shouted
การจำแนก adverbs
          1) เรื่องตำแหน่งของคำ adverbs มีตำแหน่งในประโยคดังนี้
  • อยู่หน้า adjective เช่น The story is absolutely true.
  • อยู่หน้า adverb เช่น Chiang speaks English very fluently.
  • adverb of frequency อยู่หน้า verb เช่น We often take a nap after lunch.
  • adverb of manner อยู่หลัง verb เช่น She works diligently.
          2) ส่วนลงท้ายของคำ ที่แสดงความเป็น adverb (adverb suffix) ได้แก่
  • ly เช่น fairly, mournfully
  • ward(s) เช่น northward, afterward
Example :
          Within a couple of hours, they will make an important __________.
          (A) announce                  (B) announcing
          (C) announcement           (D) announcer

          จะสังเกตได้ว่า choice ทั้งสี่มาจำคำๆ เดียวกัน คือ announce จากโจทย์ ส่วนที่ขาดหายไปคือ คำนาม (เพราะมี article an และ adj. important อยู่ข้างหน้า) ดังนั้น choice ข้อ A และ B จึงตัดทิ้งได้เลย เพราะเป็นคำกริยา ข้อที่นำไปเติมประโยคแล้วได้ความหมายและถูกไวยากรณ์ คือข้อ C

          This word has more than one __________.
          (A) meaning                    (B) means
          (C) meaningful                 (D) meanness

          ตัวเลือกที่เข้าข่าย ต้องเป็นคำนามเท่านั้น เพราะมีจำนวนนับ one (ซึ่งอาจนับเป็น adjective ได้อย่างหนึ่ง) อยู่ข้างหน้า ฉะนั้นจึงตัดตัวเลือก B และ C ซึ่งมิใช่คำนามทิ้งได้เลย คำตอบที่ถูกไวยากรณ์และได้ความหมายคือข้อ A

          Our boss is quite __________ about this new machine.
          (A) knowing                    (B) knowledge
          (C) knowledgeable          (D) knows

          พิจารณาจาก choice ทั้งสี่ ส่วนที่ขาดหายไป น่าจะเป็น adj. เพราะมี adv. quite ขยายอยู่ข้างหน้า ตัดข้อ B ซึ่งเป็นคำนาม และ D ซึ่งเป็นกริยาแท้ทิ้งไปได้ (เพราะมี is เป็นกริยาแท้อยู่แล้ว) ส่วนข้อ A ผิด เพราะ v. know ไม่ใชช้ใน continuous tense และไม่ได้ความหมายในที่นี้ด้วย คำตอบที่ถูกคือข้อ C ซึ่งเป็น adj. และถูกความหมาย

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น

Popular Posts

Like us on Facebook

Flickr Images